[x] ปิดหน้าต่างนี้
 
*** กำลังดำเนินการปรับปรุง/12 ตค 2566***

 

  

บทความทั่วไป
วันสื่อสารแห่งชาติ

ศุกร์ ที่ 29 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2554

คะแนน vote : 194  

วันสื่อสารแห่งชาติ
ทุกวันที่ 4 สิงหาคม ของทุกปี

"การสื่อสารเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งในการพัฒนา สร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้า รวมทั้งรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศด้วย ยิ่งในสมัยปัจจุบัน ที่สถานการณ์ของโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะ การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ย่อมมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ ทุกฝ่ายและทุกหน่ายงานที่เกี่ยวข้อง กับการสื่อสารของประเทศ จึงควรจะได้ร่วมมือกันดำเนินงานและประสานผลงานกันอย่างใกล้ชิด และสอดคล้อง

สำคัญที่สุด ควรจะได้พยายามศึกษาค้นคว้าวิชาการและเทคโนโลยี อันทันสมัยให้ลึงและกว้างขวาง แล้วพิจารณาเลือกเฟ้นส่วนที่ดีมีประสิทธิภาพแน่นอนมาปรับปรุงใช้ด้วยความ ฉลาดริเริ่ม ให้พอเหมาะพอสมกับฐานะและสภาพบ้านเมืองของเรา เพื่อให้กิจการสื่อสารของชาติได้พัฒนาอย่างเต็มที่ และสามารถอำนวยประโยชน์แก่การสร้างเสริมเศรษฐกิจ สังคม และเสถียรภาพของบ้านเมืองได้อย่างสมบูรณ์แท้จริง"


 

พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ

ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2526

เนื่องในโอกาสการจัดงานวันสื่อสารแห่งชาติครั้งแรก พ.ศ. 2526
 


 

ความเป็นมาของวันสื่อสารแห่งชาติ


การสื่อสารในประเทศไทย นอกจากพิราบสื่อสารและม้าเร็วแล้ว การสื่อสารเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อประเทศไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ช่วงที่บ้านเมืองปลอดจากภัยสงคราม การเมืองภายในประเทศมีเสถียรภาพมั่นคง โดยวัตถุประสงค์ของการสื่อสารในยุคนั้น ก็เพื่อนำมาสนับสนุนกิจการด้านงานความมั่นคงของประเทศ ซึ่งยุคนั้นเรียกได้ว่า เป็นยุคเริ่มล่าอาณานิคมของชาติมหาอำนาจทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส ต่างแย่งชิงผลประโยชน์ในภูมิภาคนี้ด้วยกัน และอารยะธรรมตะวันตกเริ่มหลั่งไหลเข้ามาสู่ภูมิภาคเอเชียอาคเนย์


 


ต่อมาในยุคพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) การสื่อสารได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับราชสำนัก และเกิดพัฒนาสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีกับประเทศมหาอำนาจ จนทำให้ประเทศรอดพ้นจากการถูกคุกคามจากมหาอำนาจตะวันตกหลายครา รวมทั้งการสื่อสารสามารถทำให้รับเอาวิทยาการใหม่ๆ มาปรับปรุงพัฒนาประเทศในเวลาต่อมา

จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงเจริญรอยตามพระราชบิดาในการปฏิรูปประเทศ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มหากษัตริย์ผู้วางรากฐานกิจการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศไทย พระองค์ทรงเห็นความสำคัญของการสื่อสารว่าเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ และเพื่อบำบัดทุกข์ราษฎรในพื้นที่ห่างไกล ตลอดจนสนับสนุนงานด้านความมั่นคงของชาติด้วยประการหนึ่ง แรกทีเดียวนั้นการสื่อสารอยู่ในรูปไปรษณีย์พิเศษ ซึ่งเป็นหนังสือที่จัดพิมพ์เพื่อเผยแพร่ในบบพระบรมมหาราชวัง]] และเขตบบพระนครชั้นใน]] โดย สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ และเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2424 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง บบสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์]] เป็นผู้ก่อตั้งการไปรษณีย์


 

จอมพลสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช บิดาแห่งการโทรคมนาคมไทย


จนในที่สุดการสื่อสารของบบไทย]] โดยการบบไปรษณีย์]]ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็น “กรมไปรษณีย์” อย่างเป็นทางการขึ้น ในวันที่ 4 สิงหาคม 2426 โดยมีที่ทำการไปรสะนียาคารแห่งแรก ที่ ปากคลองโอ่งอ่าง ตำบลราชบูรณะ และอาคารในพระราชอุทยานสราญรมย์


 


ขณะนั้นได้เริ่มมีการนำเทคโนโลยีบบโทรคมนาคม]]เข้ามา นั่นคือ กิจการโทรเลข ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีโทรคมนาคมอันทันสมัยรวดเร็วที่สุดในยุคนั้น เดิมทีกิจการโทรเลขอยู่ในความดูแลของกลาโหม และมีพัฒนาการต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการวางสายโทรเลขเป็นครั้งแรก ใน พ.ศ. 2418 กรุงเทพฯ ไป สมุทรปราการ เพื่อใช้ในงานราชการ จนกระทั่งได้เปิดให้มีบริการสำหรับประชาชนเป็นครั้งแรก เมื่อ 16 กรกฎาคม 2426 โดยมีอัตราค่าบริการ “คำละ 1 เฟื้อง” จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งขึ้นเป็น “กรมโทรเลข” อีกกรมหนึ่ง และมีสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ เป็นผู้สำเร็จราชการกรมโทรเลขอีกตำแหน่งหนึ่ง จากนั้นกลาโหมได้เริ่มมีการนำโทรศัพท์เข้ามาและมอบให้กรมโทรเลขดูแลต่อ


 


จะเห็นได้ว่ากิจการไปรษณีย์และกิจการโทรเลขนั้นคือ งานบริการประชาชนเพื่อติดต่อสื่อสาร ด้วยเหตุนี้ ในปี พ.ศ. 2441 กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิธาดา เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ จึงได้มีหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้รวม กรมไปรษณีย์ และ กรมโทรเลข เป็นกรมเดียวกัน

บบพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวมทั้งสองกรมไว้เป็นกรมเดียวกันชื่อว่า “กรมไปรษณีย์โทรเลข” ตั้งแต่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2441 เป็นต้นมา


 


เมื่อเกิดทิศทางในการรวมการสื่อสารของชาติมาอยู่ที่เดียว กันจึงเกิดการพัฒนามากมายอย่างรวดเร็วตามมา เช่น มีการนำรถไฟมาสนับสนุนกิจการไปรษณีย์ ก็เกิดเป็นการรถไฟตามมา มีการนำเครื่องบินมาสนับสนุนการไปรษณีย์ที่เรียกว่า รอยัลเมลล์ ก็เกิดมีการบินขึ้นต่อมา การไปรษณีย์และโทรเลขมีการขยายบริการไปทั่วราชอาณาจักร รวมทั้งทำหน้าที่เป็นสื่อกลางของชาติในการสื่อสารไปยังต่างประเทศทั่วโลก ภารกิจของกรมไปรษณีย์โทรเลข มีมากมายขึ้น ถือได้ว่าเป็นราชการกรมแห่งแรกในประเทศก็กล่าวได้ จนเกิดงานสาธารณะอันสำคัญของประเทศให้รับผิดชอบขึ้นมากมาย ทั้งงานบริการโทรคมนาคมา กิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการออมสิน กิจการวิทยุการบิน กิจการโทรศัพท์ซึ่งภายหลังได้แยกออกไป


 


จนกระทั่งปัจจุบันสืบเนื่องจากเจตนารมณ์ตามมาตรา 40 แห่งรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ที่ต้องการให้มีองค์กรอิสระปราศจากการแทรกแซงจากรัฐ เข้ามาทำหน้าที่บริหารทรัพยากรคลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งถือเป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติเพื่อประโยชน์ของสาธารณะและกำกับดูแลให้ เกิดการแข่งขันเสรีอย่างเป็นธรรม อย่างแท้จริง จึงได้เกิดการตราพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2543 ขึ้นมา ตามเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญฯ ฉบับดังกล่าว ส่งผลให้มีการประกาศให้ยุบกรมไปรษณีย์โทรเลข และจัดตั้ง “สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ (กทช.)” ขึ้นมาทำหน้าที่บริหารทรัพยากรโทรคมนาคมของชาติ และกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมให้เกิดการแข่งขันเสรีอย่างเป็นธรรม ดังที่ทราบกันดีในปัจจุบัน

จากการปฏิรูปการกำกับดูแลและบริหารกิจการสื่อสารโทรคมนาคม ของชาติโดยภาคประชาชนในครั้งนั้นเอง ทำให้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระปราศจากการแทรกแซงจากรัฐทั้งอำนาจบริหารและงบ ประมาณ ทำหน้าที่กำกับดูแล (Regulator) กิจการโทรคมนาคมของประเทศ โดยคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ชุดแรกจำนวน 7 คน ประกอบด้วย พลเอกชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธาน กทช. ศาสตราจารย์เศรษฐพร คูศรีพิทักษ์ ศาสตราจารย์ ดร.ประสิทธิ์ ประพิณมงคลการ นายเหรียญชัย เรียววิไลสุข นายสุชาติ สุชาติเวชภูมิ รองศาสตรา จารย์สุธรรม อยู่ในธรรม และ ดร.อาทร จันทวิมล (ปัจจุบันลาออกแล้ว)

บทบาทหลักของ กทช. คือ การบริหารคลื่นความถี่ เพื่อกิจการโทรคมนาคมและกำกับควบคุมดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา วัฒนธรรม ความมั่นคงของรัฐและประโยชน์สาธารณะ อื่น ๆ ดูแลผลักดันให้เกิดการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม รวมถึงส่งเสริมบทบาทด้านโทรคมนาคมไทยในเวทีโลก เพื่อให้การโทรคมนาคมไทยเจริญก้าวหน้า อันจะส่งผลให้เกิดความเจริญแก่บ้านเมืองในทุกด้านตามมา


 


นอกจากนี้ หน้าที่ที่สำคัญของ กทช. ตามภารกิจที่กฎหมายบัญญัติไว้มีอยู่อีกมากมายหลายประการ อาทิ ด้านการจัดสรรทรัพยากรคลื่นความถี่ สำหรับผู้ประกอบการ การออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม การจัดสรรความถี่วิทยุเพื่อประโยชน์สาธารณะในด้านความมั่นคงของรัฐ การให้บริการประชาชน การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร การช่วยเหลือสังคม และการเปิดเสรีสำหรับบริการอินเทอร์เน็ตให้เกิดการแข่งขันเสรีอย่างเป็นธรรม อีกทั้งด้านการบริหารทรัพยากรและโทรคมนาคมอื่น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน อาทิ การจัดทำแผนเลขหมายโทรคมนาคมและการบริหารเลขหมายโทรคมนาคม รวมทั้งกำกับดูแลการบริหารเลขหมายให้เกิดความเป็นธรรม คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างไรก็ตามปัจจุบัน เทคโนโลยีด้านการสื่อสารได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องการขยายตัวทาง เศรษฐกิจของประเทศ และบทบาทของภาคเอกชนมีมากขึ้นรวมทั้งการแข่งขัน ในกิจการสื่อสารทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ได้ทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ความได้เปรียบในเรื่องเศรษฐกิจของโลกในยุคโลกาภิวัตน์ ขึ้นอยู่กับการมีระบบการสื่อสารให้เจริญก้าวหน้า ทัดเทียมกับประเทศอื่น คณะรัฐมนตรีได้ตระหนักถึงบทบาทความสำคัญของการสื่อสารดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงได้มีมติเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2546 กำหนดให้วันที่ 4 สิงหาคมของทุกปีเป็น "วันสื่อสารแห่งชาติ"

การจัดงานวันสื่อสารแห่งชาติ

การจัดงานวันสื่อสารแห่งชาติมีขึ้นเป็นประจำทุกปี (ยกเว้นปี พ.ศ. 2533 คณะกรรมการจัดงานวันสื่อสาร แห่งชาติได้มีมติให้งดการจัดแสดงนิทรรศการ คงมีแต่เฉพาะงานพิธีและการประชุมทางวิชาการเรื่องเทคโนโลยีพื้นฐานและการวาง แผนระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม) และในการจัดงานวันสื่อสารแห่งชาติแต่ละปี จะเน้นหัวข้อการจัดงานแตกต่างกันไปทุกปี เช่น

  • พ.ศ. 2528 หัวข้อการจัดงาน คือ การสื่อสารกับบบเยาวชน]]แห่งชาติ
  • พ.ศ.2530 หัวข้อการจัดงาน คือ บบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว]]กับการสื่อสาร
  • พ.ศ. 2535 หัวข้อการจัดงาน คือ การสื่อสารเพื่อทศวรรษหน้า
  • พ.ศ.2538 หัวข้อการจัดงาน คือ การสื่อสารกับการพัฒนาเทคโนโลยีการสนเทศ เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศให้ปี พ.ศ.2538 เป็นปีเทคโนโลยีสารสนเทศไทย

กิจกรรมต่างในวันสื่อสารแห่งชาติ


ในวันสื่อสารแห่งชาติ ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ได้แก่

  1. พิธีถวายเครื่องสักการะพระบบอนุสาวรีย์]]สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
  2. การกล่าวคำปราศรัยของพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
  3. การจัดทำดวงตาไปรษณียากรที่ระลึกวันสื่อสารแห่งประเทศไทย
  4. การจัดนิทรรศการแสดงเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม


 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

- สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ผู้จัดการออนไลน์
- เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์



เข้าชม : 4254


บทความทั่วไป 5 อันดับล่าสุด

      วันปิยมหาราช 17 / ต.ค. / 2566
      ร่วมตั้งชื่อลูกฮิปโป 13 / พ.ย. / 2562
      มาดูหนูดี สอนวิธีการพัฒนาสมองกันค่ะ 5 / ส.ค. / 2554
      วันแม่แห่งชาติ 29 / ก.ค. / 2554
      วันรพี 29 / ก.ค. / 2554


ความคิดเห็นที่ 1
จันทร์ ที่ 28 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2554 เวลา 20:38:23
ขอบคุณครับ ทำ web ขายของ|รับทำเว็บ|ทำเว็บขายของ
โดย : ^^    ไอพี : 58.11.7.111



ชื่อ/Email :
ใส่รหัสที่ท่านเห็นลงในช่องนี้ [กด F5 ถ้ารหัสไม่ชัดเจน]
ไอคอน : ย่อหน้า จัดซ้าย จัดกลาง จัดขวา ตัวหนา ตัวเอียง เส้นใต้ ตัวยก ตัวห้อย ตัวหนังสือเรืองแสง ตัวหนังสือมีเงา สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม สีชมพู สีเทา
อ้างอิงคำพูด เพิ่มเพลง เพิ่มวีดีโอคลิป เพิ่มรูปภาพ เพิ่มไฟล์ Flash เพิ่มลิงก์ เพิ่มอีเมล์
ความคิดเห็น :


กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพ และอย่าใช้คำพูดที่พาดพิงถึงบุคคลอื่นให้เสียหาย ขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ


ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของระบบไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งที่ mocyc@hotmail.com เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

 
email สำนักงาน pna_nfedc@nfe.go.th 

สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดพังงา
  ๕๙ หมู่ที่ ๓   ตำบลตากแดด อำเภอเมืองพังงา  จังหวัดพังงา  ๘๒๐๐๐ โทร ๐๗๖ - ๔๘๑๐๓๕ - ๖ โทรสาร ๐๗๖ - ๔๘๑๐๓๗
 มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผู้ดูแลระบบ  
muekzero24@gmail.com   ขอบคุณ อ.นิกร เกษโกมล ผู้พัฒนา cms

email สำนักงานกศน.จ.พังงา  pna_nfedc@nfe.go.th 
 
Powered by MAXSITE 1.10