ควันในห้องครัวเป็นกลุ่มของสารที่เกิดจากการเผาไหม้และการปรุงอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูง เช่น การทำอาหารผ่านการย่าง ต้ม และทอด ซึ่งสารต่างๆ ในอาหารจะถูกย่อยสลายและเป็นก๊าซที่เกิดขึ้นในรูปของควัน ควันในห้องครัวประกอบไปด้วยสารต่างๆ เช่น ซีโตแอลบูม (acetol), กรดไฮโดรคลอริก (hydrochloric acid), กรดไฮโพช์พิจินิกร (hypochlorous acid) เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้ถ้าถูกรวมกับควันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ เช่น เข้าไปเข้าผิวพื้นผิว, เข้าไปในระบบทางเดินหายใจ, และสื่อการคิด การป้องกันควันในห้องครัวสามารถทำได้โดยการใช้เครื่องดูดควันในครัวหรือเครื่องกรองอากาศ เพื่อลดจำนวนสารต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้และการปรุงอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้วิธีการปรุงอาหารที่ไม่ต้องใช้ความร้อนสูง เช่น การต้ม, ผัด, หุงข้าว ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเกี่ยวข้องกับควันในห้องครัวได้อีกด้วย ควันในห้องครัวเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้อาศัยในบ้าน การเผชิญกับควันในระยะยาวอาจทำให้เกิดข้อเสียต่างๆ ดังนี้: 1. การกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ: การสูดควันไปในร่างกายส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น การไหม้ตับ, พื้นที่ถุงลมและปอด เพื่อป้องกันไม่ให้ควันเข้าถึงไขกระดูกจำเป็นต้องมีการรักษาระดับคุณภาพอากาศและการระบายควันให้อีก 2. ผลกระทบต่อสุขภาพ: ควันจำพวก CO (carbon monoxide) เชื่อมโยงกับการไม่ได้รับ oksijen (oxygen) เพียงพอแล้วมีผลต่อระบบหัวใจและทางเดินเลือด นอกจากนี้ ควันยังส่งผลกระทบต่อระบบประสาท การหายใจและการมองเห็น 3. ควันก่อโรค: ควันในห้องครัวประกอบไปด้วยสารพิษและสารเคมีต่างๆ เช่น formaldehyde, benzene, acrolein ซึ่งถูกพิษต่อร่างกาย เมื่อถูกดูดเข้าไปในร่างกายโดยไม่ได้กรอง 4. เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้: การใช้เตาและเตาไมโครเวฟในห้องครัวที่ไม่ถูกสุขลักษณะและการใช้ไม่ถูกระบุสิทธิ์ข้อผิดพลาดที่ไม่ได้จำพื้นที่จำพื้นที่ 5. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: การผ่านพืชถ้ามีการป้องกันไม่ให้ควันเข้าถึง การปรับปรุงคุณภาพให้เหมาะกับสิ่งแวดล้อม
เข้าชม : 327
|